ฉนวนกันความร้อน สินค้ากันความร้อน ในอุตสาหกรรมไทย

สินค้ากันความร้อน สำคัญต่อวงการอุตสาหกรรมอย่างไร

สินค้ากันความร้อนมีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมในหลายๆด้าน เช่น ช่วยลดความร้อนแผ่ในบริเวณที่ทำงานหรือที่วางเครื่องจักร ช่วยลดค่าไฟฟ้าลดค่าพลังงานที่ใช้ในการผลิต ป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงาน ช่วยให้การผลิตเป็นไปได้อย่างราบรื่น ช่วยลดการสึกหรอของอุปกรณ์และเครื่องจักร รวมไปถึงเรื่องของการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

 

สินค้ากันความร้อน ที่สำคัญต่อวงการอุตสาหกรรมไทย ได้แก่

สินค้ากันความร้อนที่นิยมใช้และมีบทบาทสำคัญต่อวงการอุตสาหกรรมไทย ได้แก่ ฉนวนกันความร้อน ฉนวนสะท้อนความร้อน ฉนวนใยแก้ว ฉนวนใยหิน ฉนวนเซรามิค ฉนวนซิลิก้า ผ้ากันความร้อน ผ้าใยแก้ว ผ้าซิลิก้า ผ้าอรามิด เทปกันความร้อน ผ้ากันไฟ ผ้ากันสะเก็ดไฟเชื่อม ปะเก็นทนความร้อน ด้ายทนความร้อน ด้ายโลหะทนความร้อนสูง ตาข่ายทนความร้อน ชุดกันความร้อนและถุงมือกันความร้อน เป็นต้น

 

ฉนวน คืออะไร

ฉนวนคือวัสดุที่เป็นตัวต้านทานหรือคั่นกลางระหว่างวัตถุร้อนหรือเย็นกับอุณหภูมิผิวด้านนอก หรือคั่นกลางระหว่างคลื่นเสียงก้บชั้นบรรยากาศ ฉนวนหรือ insulation เป็นคำที่กว้างมาก แต่สามารถสรุปได้สั้นๆว่าฉนวนคือตัวต้านทาน

 

ฉนวนกันความร้อน ในวงการอุตสาหกรรม มีแบบไหนบ้าง

ฉนวนกันความร้อนที่มีใช้ในวงการอุตสาหกรรมไทย มีมากมายหลายประเภท แต่ที่พบว่ามีการใช้กันแพร่หลายที่แยกตามลักษณะงานหรือการนำไปใช้ได้แก่ ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาโรงงาน ฉนวนกันความร้อนสำหรับหุ้มท่อสตีมและท่อไอเสีย ฉนวนกันความร้อนสำหรับกรุผนังด้านในและด้านนอกเตา ฉนวนกันความร้อนแบบถอดได้ที่ติดตั้งบนเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ในโรงงาน ฉนวนประหยัดพลังงานสำหรับวาล์วและระบบควบคุมของไหล ฉนวนรักษาความร้อนสำหรับกระบวนการผลิตบางประเภทที่ต้องรักษาอุณหภูมิให้เท่ากันทั้งกระบวนการ และฉนวนกันความร้อนสูงพร้อมกันการสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์กังหันก๊าซ เป็นต้น

 

การหุ้มฉนวนกันความร้อน สำคัญอย่างไร

โรงงานที่มีความร้อนในกระบวนการผลิต แต่ปล่อยปละละเลยให้มีการสูญเสียความร้อนเกิดขึ้น จะประสบพบเจอกับปัญหาทั้งทางตรงและทางอ้อมในที่สุด เช่น ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเนื่องจากมีการใช้พลังงานในการทำความร้อนสูงกว่าที่ควรจะเป็น การลาออกของพนักงานในฝ่ายที่ต้องทำงานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิห้องสูงเป็นเวลานานๆ ค่าใช้จ่ายที่ต้องซ่อมแซมและบำรุงรักษาอุปกรณ์รวมไปถึงเครื่องจักรที่เสื่อมจากความร้อนแผ่ ค่าไฟฟ้าและน้ำยาของเครื่องปรับอากาศในกรณีที่มีการผลิตในห้องปรับอากาศ เพราะฉะนั้น การหุ้มฉนวนกันความร้อนในโรงงาน สำหรับจุดที่สำคัญและส่งผลกระทบหรือทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวข้างต้น จะมีส่วนช่วยให้ผู้บริหารหรือผู้จัดการโรงงานหมดปัญหาดังกล่าวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

 

ติดตั้งฉนวนกันความร้อน โดยผู้เชี่ยวชาญฉนวนกันความร้อน สำคัญมากน้อยแค่ไหน

มีความสำคัญมาก เพราะฉนวนกันความร้อนที่ติดตั้งในโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ จะมีราคาสูงกว่าฉนวนที่ใช้ตามอาคารบ้านพักอาศัยทั่วไป หากมีการติดตั้งผิดวิธีและขั้นตอนทั้งโดยไม่เจตนาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ประโยชน์หรือประสิทธิภาพของฉนวนนั้นก็ลดลง เช่น การเลือกใช้หมุดยึดติดกับฉนวนที่อยู่ติดกับเครื่องยนต์กังหันก๊าซ แทนที่จะเลือกใช้ระบบยึดแบบหัวเข็มขัดหรือแบบตะขอ ก็จะทำให้ฉนวนเกิดการแยกตัวและหลุดออกจากหมุด เนื่องจากการสั่นสะเทือนเมื่อเครื่องยนต์กังหันก๊าซทำงาน การติดตั้งฉนวนกันความร้อน โดยผู้เชี่ยวชาญฉนวนกันความร้อน นับว่ามีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกประเภทฉนวนมาใช้งานหรือแก้ปัญหาด้านความร้อนที่เกิดขึ้นในโรงงาน

 

ชุดสะท้อนความร้อน หรือ ชุดกันความร้อน สำคัญอย่างไร

ชุดสะท้อนความร้อนหรือชุดกันความร้อน มีหลักการทำงานเดียวกันคือป้องก้นผู้สวมใส่จากอันตรายที่จะเกิดขึ้น จากการแผ่รังสีความร้อน ชุดกันความร้อนที่ดีจะทำให้ผู้ใส่ไม่อึดอัดเมื่อต้องใส่ชุดทำกิจกรรมเป็นเวลานานๆ เคลื่อนไหวได้สะดวก มีน้ำหนักไม่มากจนเกินไป และที่สำคัญคือวัสดุที่นำมาตัดเย็บชุดสะท้อนความร้อนต้องไม่ลามไฟ ไม่เป็นเชื้อเพลิง และไม่คัน เพราะหากใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้ผู้สวมใส่ได้รับอันตรายจากการถูกความร้อนลวกได้

 

ผ้ากันความร้อน ในวงการอุตสาหกรรมไทย มีแบบใดบ้าง

ผ้ากันความร้อนที่มีจำหน่ายสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรมบ้านเรา ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ มีการแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่คือ ผ้ากันความร้อนทั่วไป และ ผ้ากันความร้อนสำหรับอุณหภูมิสูง แต่สำหรับในแง่ของผู้ผลิตจะนิยมเรียกผ้ากันความร้อนตามวัสดุหลักที่นำมาใช้ในการผลิต เช่น ผ้าใยแก้ว ผ้าซิลิก้า ผ้าเซรามิค ผ้ากราไฟต์ ผ้าอรามิด เป็นต้น

 

ฉนวนกันความร้อน

ฉนวนใยแก้ว และ ผ้าใยแก้ว ต่างหรือเหมือนกันอย่างไร

ฉนวนใยแก้วและผ้าใยแก้วเหมือนกันคือ ผลิตมาจากทรายซิลิก้า มีจุดหลอมละลายและคุณสมบัติในการต้านทานความร้อนที่คล้ายกัน แตกต่างกันตรงกระบวนการผลิต เพราะผ้าใยแก้วจะผลิตโดยการทอ (woven) ออกมาเป็นผืน เช่นเดียวกับการทอผ้าจากเส้นใยโปลีเอสเตอร์หรือใยฝ้าย ในขณะที่ฉนวนใยแก้วจะผลิตโดยการอัดขึ้นรูป (non woven) ทั้งฉนวนใยแก้วและผ้าใยแก้วสามารถนำประยุกต์ใช้กับงานที่ความร้อนต่ำ (100-200°C) ไปจนถึงอุณหภูมิสูง (900-1200°C) ความต่างอีกประการระหว่างวัสดุสองชนิดนี้ก็คือ ผ้าใยแก้วสามารถจบผิวได้หลากหลายกว่าฉนวนใยแก้ว เช่น เราอาจเคยได้ยินคำว่า ผ้าใยแก้วปะฟอยล์ ผ้าใยแก้วเคลือบซิลิโคน ผ้าใยแก้วเคลือบเทฟล่อน

 

เทปกันความร้อน ไว้ใช้ในการกันความร้อนอะไรบ้าง

อุตสาหกรรมไทยส่วนใหญ่จะใช้เทปกันความร้อน ในงานพันท่อร้อนเช่น ท่อไอน้ำหรือท่อสตีม ท่อไอเสียเครื่องยนต์รถและเครื่องยนต์เรือ ท่อไอเสียเครื่องปั่นไฟและเครื่องสูบน้ำดับเพลิง รวมไปถึงท่อฮีทเตอร์และวัสดุทรงกระบอกทุกชนิด การพันเทปกันความร้อนก็เพื่อป้องกันความร้อนแผ่จากวัตถุที่พัน มิให้แผ่รังสีความร้อนมายังอุปกรณ์รอบข้าง หรือก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน โดยทั่วไปแล้วเทปกันความร้อนมีกรรมวิธีการผลิตเช่นเดียวกับผ้ากันความร้อน จะต่างกันตรงที่หน้ากว้างของเทปกันความร้อนจะมีขนาดตั้งแต่ 1” 2” 4” 8” ในขณะที่ผ้ากันความร้อนจะมีหน้ากว้างที่ 1M 1.2M 1.5M 1.6M 1.8M เป็นต้น

 

ท่อลมร้อน สำคัญอย่างไรในวงการอุตสาหกรรม

ท่อลมร้อนมีความสำคัญตรงที่ช่วยป้องกันปัญหาการบิดตัว การยืดและหดตัวของโลหะหรือท่อเมื่อเกิดความร้อนสะสมเนื่องจากลมร้อนที่วิ่งผ่านด้านในท่อ ช่วยลดการสั่นสะเทือนของแนวท่อที่มีลมวิ่งอยู่ภายใน อีกทั้งช่วยลดเสียงดังภายในบริเวณที่ท่อแต่ละด้านมีการเยื้องศูนย์กัน นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการลดการสึกหรอของระบบท่อลมหรือท่อไอเสียในโรงงาน โรงงานที่ได้รับการออกแบบระบบท่อลมร้อนไม่ถูกต้อง หรือไม่มีท่อลมร้อนในจุดที่ควรมี จะมีปัญหาหลายอย่างตามมาในกระบวนการผลิต เช่น ระบบท่อมีเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานหรือกฎหมายกำหนด พัดลมหรือ blowers เกิดการสึกหรอเร็วกว่าที่ควรจะเป็น รวมไปถึงการสั่นสะเทือนมากเกินไปในจุดที่วาง boilers เป็นต้น

 

เชือกกันความร้อน สำคัญอย่างไร

เชือกกันความร้อนมีการนำมาใช้ในเชิงประยุกต์ เช่น เราจะพบเห็นว่ามีการนำเชือกกันความร้อนมาทำเป็นปะเก็นประตูตู้อบ ปะเก็นฝาครอบหม้อทำความร้อน ปะเก็นในประตูของเตาหลอม หรือบางครั้งจะพบว่ามีการนำเชือกกันความร้อนที่มีขนาดใหญ่ ไปพันท่อร้อนที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่มากๆได้เช่นกัน

 

ปะเก็นกันความร้อน สำคัญอย่างไร

ปะเก็นกันความร้อนช่วยไม่ให้เกิดการแผ่ความร้อน จากในเตาหลอมหรือตู้อบออกมายังบริเวณด้านนอก หลักการทำงานแบบนี้จะช่วยให้ความร้อนในเตานิ่งได้ที่ มีความร้อนสม่ำเสมอทั่วทั้งเตาหรือตู้อบ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียพลังงานความร้อน (heat loss) และในที่สุดก็ไม่ต้องเสียค่าพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ นอกจากนี้ปะเก็นกันความร้อนยังช่วยชดเชยระยะห่าง (gap or space) รวมไปถึงการขยายและหดตัวของโลหะที่อาจเกิดขึ้นกับหน้าแปลนท่อได้อีกด้วย